จำนวนเต็ม

Last updated: 21 ส.ค. 2567  |  250 จำนวนผู้เข้าชม  | 

 จำนวนเต็ม

จำนวนเต็ม (Integer) เป็นหนึ่งในหัวข้อพื้นฐานของคณิตศาสตร์ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน มันเป็นชุดของตัวเลขที่สามารถเป็นจำนวนบวก (positive), จำนวนลบ (negative), หรือศูนย์ (zero) ซึ่งจำนวนเต็มเป็นกลุ่มของตัวเลขที่ไม่มีเศษส่วนหรือทศนิยม เช่น -3, -2, -1, 0, 1, 2, 3 และอื่นๆ

1. ชนิดของจำนวนเต็ม

จำนวนเต็มแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก ดังนี้:

  • จำนวนเต็มบวก (Positive Integers): คือจำนวนเต็มที่มากกว่า 0 เช่น 1, 2, 3, 4 ฯลฯ
  • จำนวนเต็มลบ (Negative Integers): คือจำนวนเต็มที่น้อยกว่า 0 เช่น -1, -2, -3, -4 ฯลฯ
  • ศูนย์ (Zero): เป็นจำนวนเต็มที่ไม่บวกและไม่ลบ มีค่าเป็นกลาง

2. การเปรียบเทียบจำนวนเต็ม

เมื่อเปรียบเทียบจำนวนเต็ม ควรคำนึงถึงตำแหน่งบนเส้นจำนวน:

  • จำนวนเต็มบวก อยู่ทางขวาของศูนย์ เลขมากยิ่งมีค่ามาก
  • จำนวนเต็มลบ อยู่ทางซ้ายของศูนย์ ยิ่งเลขมากยิ่งมีค่าน้อย

ตัวอย่าง: -2 น้อยกว่า 1 และ 3 มากกว่า -1

3. การดำเนินการทางคณิตศาสตร์

จำนวนเต็มสามารถดำเนินการต่างๆ ได้ เช่น การบวก, ลบ, คูณ และหาร:

  • การบวกจำนวนเต็ม: เมื่อบวกจำนวนบวก ผลลัพธ์จะเพิ่มขึ้น แต่เมื่อบวกจำนวนลบ ผลลัพธ์จะลดลง
  • การลบจำนวนเต็ม: คล้ายการบวก แต่ตรงข้ามกับการเพิ่มค่าตัวเลข
  • การคูณและหารจำนวนเต็ม: จำนวนเต็มสองตัวเมื่อนำมาคูณหรือหารกัน ผลลัพธ์จะขึ้นอยู่กับเครื่องหมาย:
    • จำนวนบวก × จำนวนบวก = ผลบวก
    • จำนวนลบ × จำนวนลบ = ผลบวก
    • จำนวนบวก × จำนวนลบ = ผลลบ

4. การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน

จำนวนเต็มถูกใช้ในหลายบริบท เช่น:

  • การคิดคะแนนในการสอบ
  • การวัดอุณหภูมิ เช่น -5 องศาเซลเซียสในช่วงหน้าหนาว
  • การคำนวณการเงิน เช่น ยอดเงินคงเหลือในบัญชี

สรุป
จำนวนเต็มเป็นหัวข้อที่ไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่าย มีการใช้ในชีวิตประจำวันอยู่บ่อยครั้ง เพียงเข้าใจการเปรียบเทียบและการดำเนินการกับจำนวนเต็มก็จะทำให้การเรียนคณิตศาสตร์เรื่องนี้ไม่เป็นเรื่องยากเลย

อ่านมาถึงตรงนี้แล้วน่าจะเข้าใจจำนวนเต็มมากขึ้นนะคะ! 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้