วิธีใช้ "is" "am" และ "are" ให้ถูกต้อง

การใช้คำว่า "is" "are" และ "am" เป็นพื้นฐานของภาษาอังกฤษที่ใช้ในประโยคเพื่อเชื่อมโยงประธาน (subject) กับคำที่ตามมา เช่น คำกริยาหรือคำนาม ทั้งสามคำนี้ถือว่าเป็นคำกริยาในรูปของ verb to be ซึ่งใช้ต่างกันขึ้นอยู่กับประธานในประโยคและรูปของคำที่เราต้องการบอก

การใช้ "is"

คำว่า “is” ใช้กับประธานเอกพจน์ (singular subject) ที่เป็นบุคคลที่สาม เช่น he (เขา), she (เธอ), it (มัน) และคำนามที่เป็นเอกพจน์ หรือสิ่งของที่นับได้เพียงอย่างเดียว ตัวอย่าง:

He is a doctor. (เขาเป็นหมอ)
She is very kind. (เธอใจดีมาก)
It is a beautiful day. (วันนี้อากาศดีมาก)
The book is on the table. (หนังสืออยู่บนโต๊ะ)

คำแปล: เราใช้ "is" เมื่อต้องการบอกว่าสิ่งที่เราพูดถึงเป็นเอกพจน์ หรือเป็นบุคคล/สิ่งของเพียงอย่างเดียว และเราอยากจะบอกข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งนั้น เช่น อาชีพ ความรู้สึก หรือสถานที่

การใช้ "am"

คำว่า “am” ใช้กับประธานที่เป็นคำว่า “I” เท่านั้น ซึ่งหมายถึงตัวเราเองในการพูดถึงตัวเราเอง ตัวอย่าง:

I am happy. (ฉันมีความสุข)
I am a teacher. (ฉันเป็นครู)
I am going to the store. (ฉันกำลังจะไปที่ร้าน)

คำแปล: "am" ใช้กับ "I" เท่านั้น และใช้บอกสิ่งที่เกี่ยวกับตัวเรา เช่น ความรู้สึก อาชีพ หรือกิจกรรมที่เรากำลังทำ

การใช้ "are"

คำว่า “are” ใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์ (plural subject) เช่น we (พวกเรา), they (พวกเขา), you (คุณ), และคำนามพหูพจน์ (มากกว่าหนึ่งสิ่ง) ตัวอย่าง:

We are students. (พวกเราเป็นนักเรียน)
They are going to the park. (พวกเขากำลังจะไปสวนสาธารณะ)
You are very smart. (คุณฉลาดมาก)
The dogs are barking. (หมากำลังเห่า)

คำแปล: เราใช้ "are" เมื่อต้องการบอกถึงสิ่งที่เป็นพหูพจน์หรือหลายคนหลายสิ่ง เช่น บอกถึงกลุ่มคน หรือสิ่งของมากกว่าหนึ่งชิ้น

ตารางสรุป

ตัวอย่างการใช้ในชีวิตประจำวัน
I am tired today. (วันนี้ฉันเหนื่อย)
She is a good singer. (เธอเป็นนักร้องที่ดี)
They are my friends. (พวกเขาคือเพื่อนของฉัน)

• ใช้ "is" เมื่อประธานเป็นคนหรือสิ่งของเพียงหนึ่งอย่าง
  
• ใช้ "are" เมื่อประธานเป็นหลายคนหรือหลายสิ่ง
  
• ใช้ "am" เมื่อพูดถึงตัวเองเท่านั้น