Last updated: 8 ต.ค. 2567 | 66 จำนวนผู้เข้าชม |
การใช้ “a” และ “an” เป็นเรื่องที่หลายคนมักสับสนเมื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งสองคำเป็นคำบ่งบอกคำนามแบบไม่เฉพาะเจาะจง (indefinite articles) ซึ่งใช้เมื่อพูดถึงสิ่งของ บุคคล หรือสถานการณ์ที่ไม่ใช่สิ่งที่เจาะจงหรือรู้จักกันอยู่ก่อน การเลือกใช้ "a" หรือ "an" นั้นขึ้นอยู่กับเสียงที่เริ่มต้นของคำที่ตามหลังมา ไม่ใช่เพียงแค่ตัวอักษรแรกเท่านั้น บทความนี้จะอธิบายวิธีการใช้ที่ถูกต้องและเคล็ดลับในการจดจำหลักการเหล่านี้
หลักการพื้นฐานในการใช้ "a" และ "an"
การใช้ "a"
"a" ใช้เมื่อตามด้วยคำที่เริ่มด้วยเสียงพยัญชนะ (ไม่ใช่ตัวอักษร) ซึ่งครอบคลุมถึงคำนามที่เริ่มต้นด้วยพยัญชนะส่วนใหญ่ เช่น "b," "c," "d," เป็นต้น มาดูตัวอย่างกัน
การใช้ "an"
"an" ใช้เมื่อตามด้วยคำที่เริ่มด้วยเสียงสระ ได้แก่เสียงที่เริ่มด้วยตัวอักษร "a," "e," "i," "o," "u" หรือคำที่ออกเสียงเหมือนเสียงสระ มาดูตัวอย่างกัน
ความสำคัญของเสียง ไม่ใช่ตัวอักษร
การใช้ "a" หรือ "an" ขึ้นอยู่กับเสียงที่เริ่มต้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวอักษร ดังนั้นคุณต้องฟังเสียงมากกว่าดูตัวอักษรแรก เช่น
ตัวอย่างเพิ่มเติมของการใช้ "a" และ "an"
เพื่อให้คุณเข้าใจการใช้ได้ชัดเจนขึ้น เรามีตัวอย่างของการใช้ทั้ง "a" และ "an" ในประโยคจริงที่พบได้ในชีวิตประจำวัน
การใช้ "a" และ "an" กับอาชีพ
เมื่อเราพูดถึงอาชีพโดยทั่วไป เรามักใช้ "a" หรือ "an" นำหน้าชื่ออาชีพเพื่อแสดงว่าเป็นบุคคลหนึ่งในอาชีพนั้น ไม่ใช่บุคคลเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น
การใช้ "a" และ "an" กับคำนามนับได้ (Countable Nouns)
"a" และ "an" ใช้กับ คำนามนับได้เอกพจน์ (Singular Countable Nouns) หมายถึงสิ่งที่เราสามารถนับจำนวนได้ เช่น หนึ่งคน หนึ่งสิ่ง หรือหนึ่งชิ้น
การใช้ "a" และ "an" กับการพูดถึงครั้งแรก
เรามักใช้ "a" หรือ "an" เมื่อพูดถึงบางสิ่งบางอย่างเป็นครั้งแรก โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นสิ่งไหนที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น
การใช้ “a” หรือ “an” กับย่อหน้าและคำย่อ
คำย่อที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรแต่ละตัวอาจมีเสียงสระหรือพยัญชนะเช่นกัน ตัวอย่างเช่น
สรุป
การใช้ "a" และ "an" เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ภาษาอังกฤษที่สำคัญ ซึ่งไม่ซับซ้อนนักหากคุณเข้าใจหลักการพื้นฐานว่าใช้ตามเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เพียงตัวอักษรที่ขึ้นต้น โดยทั่วไปให้จำไว้ว่าถ้าเสียงเริ่มต้นเป็นเสียงพยัญชนะ ให้ใช้ "a" และถ้าเสียงเริ่มต้นเป็นเสียงสระ ให้ใช้ "an" การใช้คำเหล่านี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้การพูดและการเขียนภาษาอังกฤษของคุณดูเป็นธรรมชาติและมีความมืออาชีพ
8 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567
8 ต.ค. 2567