ความแตกต่างระหว่าง "a" และ "an" กับการใช้ที่ถูกต้อง

Last updated: 8 ต.ค. 2567  |  40 จำนวนผู้เข้าชม  | 

ความแตกต่างระหว่าง "a" และ "an" กับการใช้ที่ถูกต้อง

การใช้ “a” และ “an” เป็นเรื่องที่หลายคนมักสับสนเมื่อเริ่มเรียนภาษาอังกฤษ ทั้งสองคำเป็นคำบ่งบอกคำนามแบบไม่เฉพาะเจาะจง (indefinite articles) ซึ่งใช้เมื่อพูดถึงสิ่งของ บุคคล หรือสถานการณ์ที่ไม่ใช่สิ่งที่เจาะจงหรือรู้จักกันอยู่ก่อน การเลือกใช้ "a" หรือ "an" นั้นขึ้นอยู่กับเสียงที่เริ่มต้นของคำที่ตามหลังมา ไม่ใช่เพียงแค่ตัวอักษรแรกเท่านั้น บทความนี้จะอธิบายวิธีการใช้ที่ถูกต้องและเคล็ดลับในการจดจำหลักการเหล่านี้


หลักการพื้นฐานในการใช้ "a" และ "an"

  • “a” ใช้กับคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงพยัญชนะ (Consonant Sound)
  • “an” ใช้กับคำนามที่ขึ้นต้นด้วยเสียงสระ (Vowel Sound)


การใช้ "a"
"a" ใช้เมื่อตามด้วยคำที่เริ่มด้วยเสียงพยัญชนะ (ไม่ใช่ตัวอักษร) ซึ่งครอบคลุมถึงคำนามที่เริ่มต้นด้วยพยัญชนะส่วนใหญ่ เช่น "b," "c," "d," เป็นต้น มาดูตัวอย่างกัน

  • a dog (สุนัขตัวหนึ่ง) – "d" ใน dog เป็นเสียงพยัญชนะ
  • a car (รถคันหนึ่ง) – "c" ใน car เป็นเสียงพยัญชนะ
  • a book (หนังสือเล่มหนึ่ง) – "b" ใน book เป็นเสียงพยัญชนะ
  • a hotel (โรงแรมแห่งหนึ่ง) – แม้จะเริ่มด้วยตัวอักษร "h" แต่ "h" ออกเสียงในคำว่า hotel


การใช้ "an"
"an" ใช้เมื่อตามด้วยคำที่เริ่มด้วยเสียงสระ ได้แก่เสียงที่เริ่มด้วยตัวอักษร "a," "e," "i," "o," "u" หรือคำที่ออกเสียงเหมือนเสียงสระ มาดูตัวอย่างกัน

  • an apple (แอปเปิลลูกหนึ่ง) – "a" ใน apple เป็นเสียงสระ
  • an egg (ไข่ฟองหนึ่ง) – "e" ใน egg เป็นเสียงสระ
  • an orange (ส้มลูกหนึ่ง) – "o" ใน orange เป็นเสียงสระ
  • an hour (หนึ่งชั่วโมง) – แม้ว่า hour จะเริ่มด้วย "h" แต่ "h" ไม่ออกเสียง จึงนับเป็นเสียงสระ "อาว-เออร์"
  • an umbrella (ร่มคันหนึ่ง) – "u" ใน umbrella ออกเสียงเหมือนเสียงสระ


ความสำคัญของเสียง ไม่ใช่ตัวอักษร
การใช้ "a" หรือ "an" ขึ้นอยู่กับเสียงที่เริ่มต้น ไม่ใช่เพียงแค่ตัวอักษร ดังนั้นคุณต้องฟังเสียงมากกว่าดูตัวอักษรแรก เช่น

  • an hour (หนึ่งชั่วโมง) – เนื่องจาก "h" ไม่ออกเสียง และเสียงเริ่มต้นเป็นเสียงสระ "อาว"
  • a university (มหาวิทยาลัยหนึ่งแห่ง) – แม้จะขึ้นต้นด้วย "u" แต่ "u" ในคำนี้ออกเสียงคล้ายเสียงพยัญชนะ "ย" ดังนั้นใช้ "a"
  • an honest person (คนซื่อสัตย์คนหนึ่ง) – "h" ใน honest ไม่ออกเสียง ดังนั้นใช้ "an"
  • a house (บ้านหลังหนึ่ง) – "h" ใน house ออกเสียง ดังนั้นใช้ "a"


ตัวอย่างเพิ่มเติมของการใช้ "a" และ "an"
เพื่อให้คุณเข้าใจการใช้ได้ชัดเจนขึ้น เรามีตัวอย่างของการใช้ทั้ง "a" และ "an" ในประโยคจริงที่พบได้ในชีวิตประจำวัน

  • a teacher (ครูหนึ่งคน)
  • an actor (นักแสดงหนึ่งคน)
  • a bike (จักรยานคันหนึ่ง)
  • an engineer (วิศวกรหนึ่งคน)
  • a unicorn (ม้ายูนิคอร์นตัวหนึ่ง) – ใช้ "a" เพราะเสียง "ยู" ใน unicorn เป็นเสียงพยัญชนะ


การใช้ "a" และ "an" กับอาชีพ
เมื่อเราพูดถึงอาชีพโดยทั่วไป เรามักใช้ "a" หรือ "an" นำหน้าชื่ออาชีพเพื่อแสดงว่าเป็นบุคคลหนึ่งในอาชีพนั้น ไม่ใช่บุคคลเฉพาะเจาะจง ตัวอย่างเช่น

  • She is a doctor. (เธอเป็นหมอ)
  • He is an architect. (เขาเป็นสถาปนิก)
  • They want to become a pilot. (พวกเขาอยากเป็นนักบิน)


การใช้ "a" และ "an" กับคำนามนับได้ (Countable Nouns)
"a" และ "an" ใช้กับ คำนามนับได้เอกพจน์ (Singular Countable Nouns) หมายถึงสิ่งที่เราสามารถนับจำนวนได้ เช่น หนึ่งคน หนึ่งสิ่ง หรือหนึ่งชิ้น

  • a pen (ปากกาหนึ่งด้าม)
  • an apple (แอปเปิลหนึ่งลูก)


การใช้ "a" และ "an" กับการพูดถึงครั้งแรก
เรามักใช้ "a" หรือ "an" เมื่อพูดถึงบางสิ่งบางอย่างเป็นครั้งแรก โดยไม่ได้ระบุว่าเป็นสิ่งไหนที่ชัดเจน ตัวอย่างเช่น

  • I saw a movie last night. (ฉันดูหนังเรื่องหนึ่งเมื่อคืนนี้) – ยังไม่ได้ระบุว่าหนังเรื่องไหน
  • She wants an ice cream. (เธอต้องการไอศกรีมหนึ่งแท่ง) – ยังไม่ระบุว่าเป็นไอศกรีมรสไหน


การใช้ “a” หรือ “an” กับย่อหน้าและคำย่อ
คำย่อที่ขึ้นต้นด้วยตัวอักษรแต่ละตัวอาจมีเสียงสระหรือพยัญชนะเช่นกัน ตัวอย่างเช่น

  • an MBA (หลักสูตร MBA) – เพราะ "M" ออกเสียงเหมือน "เอ็ม" ซึ่งเป็นเสียงสระ
  • a UFO (จานบิน) – เพราะ "U" ใน UFO ออกเสียงเป็นเสียงพยัญชนะ "ยู"


สรุป
การใช้ "a" และ "an" เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ภาษาอังกฤษที่สำคัญ ซึ่งไม่ซับซ้อนนักหากคุณเข้าใจหลักการพื้นฐานว่าใช้ตามเสียงที่ได้ยิน ไม่ใช่เพียงตัวอักษรที่ขึ้นต้น โดยทั่วไปให้จำไว้ว่าถ้าเสียงเริ่มต้นเป็นเสียงพยัญชนะ ให้ใช้ "a" และถ้าเสียงเริ่มต้นเป็นเสียงสระ ให้ใช้ "an" การใช้คำเหล่านี้อย่างถูกต้องจะช่วยให้การพูดและการเขียนภาษาอังกฤษของคุณดูเป็นธรรมชาติและมีความมืออาชีพ

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้