Last updated: 14 พ.ย. 2567 | 135784 จำนวนผู้เข้าชม |
โดยปกติห้องเรียนระดับมัธยมแต่เดิม จะมีหลักสูตรเหมือนกันในระดับชั้นมัธยมตอนต้น และแยกสายเรียนเป็นห้องเรียนวิทย์ - คณิต, ศิลป์ - คำนวณ และศิลป์ภาษาต่างๆ ตอน ม.ปลาย การจัดห้องเรียนภายในก็อาจเพิ่มเติมห้องคิง ห้องควีนเป็นต้น
แต่ในปัจจุบัน การจัดรูปแบบการศึกษาระดับมัธยมมีความหลากหลายมาก โรงเรียนหลายแห่งมีการจัดห้องเรียนพิเศษเพื่อให้ตรงกับความถนัดและเฉพาะทางมากขึ้น นอกจากนี้ยังอาจมีการแยกห้องพิเศษเหล่านี้ตั้งแต่ประถมเลยทีเดียว
เรามาดูกันว่า "ห้องเรียนพิเศษ" เหล่านั้นเรียนเกี่ยวกับอะไร และมีที่ตรงกับความสนใจของเราบ้างรึเปล่า
GIFTED
คำว่า "กิฟต์" หรือ "กิฟเต็ด" ทับศัพท์มาจากคำว่า Gifted ในภาษาอังกฤษที่หมายถึง พรสวรรค์ ดังนั้น "ห้องกิฟต์" จึงหมายถึงห้องเรียนที่จัดหลักสูตรให้เหมาะสมเพื่อส่งเสริมศักยภาพของเด็กที่ฉายแววอัจฉริยะ
ห้อง Gifted นั้นเป็นห้องเรียนพิเศษของนักเรียนสาย วิทย์-คณิต ที่เน้นการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ ซึ่งเนื้อหาจะมีความเข้มข้น และมีเนื้อหาที่มากกว่าห้องเรียนปกติ อาจจะมีเนื้อหาที่อยู่ในระดับชั้นที่สูงกว่าเรียนอยู่ด้วย โดยชั่วโมงเรียนของห้อง Gifted ก็จะมากกว่าห้องปกติ
หากเป็นระดับชั้น ม.ต้น ส่วนใหญ่มักเป็นห้องกิฟต์รวมทั้งคณิต วิทย์ และภาษาอังกฤษ แต่พอมาเป็นระดับ ม.ปลาย จะแบ่งสายชัดเจนมากขึ้น เช่น "โครงการพัฒนาศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ" ของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ที่เลือกเรียนได้ทั้งสายคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
ห้องกิฟต์แต่ละโรงเรียน อาจจะมีชื่อเรียกแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความร่วมมือกับโครงการต่างๆ
อาทิ รร.สายปัญญารังสิต จะใช้ชื่อห้องกิฟต์ว่า "โครงการห้องเรียนพิเศษของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)" ซึ่งจะเรียนวิทย์คณิตแบบเข้มข้น เสริมด้วยภาษาอังกฤษ
ส่วน รร.สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จะใช้ชื่อว่า "โครงการเติมเต็มศักยภาพนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษ" ม.ต้น จนถึง ม.ปลาย ในสายคณิตวิทย์ และอังกฤษ
ในขณะที่ รร.สวนกุหลาบวิทยาลัย ทั้งระดับ ม.ต้น และ ม.ปลาย หลักสูตรจะเน้นคณิต วิทย์ อังกฤษ โดยวิชาคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์จะเข้มข้นกว่าหลักสูตรปกติ เน้นปฏิบัติจริง สอนโดยครูผู้เชี่ยวชาญแต่ละสาขาวิชาและวิทยากรภายนอก วิชาภาษาอังกฤษเรียนกับคุณครูต่างชาติมากกว่าโครงการปกติ
รร.สตรีวิทยาจะมีทั้งห้องกิฟต์ธรรมดาในชื่อ "ห้องเรียนพิเศษตามโครงการส่งเสริมนักเรียนที่มีความเป็นเลิศด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์" และยังมี "โครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ตามแนวทาง สสวท. และสอวน." ที่เพิ่มขึ้นมาภายหลัง ซึ่งจะเน้นวิทย์มากกว่าคณิต และเน้นสอบ สสวท. สอวน. และโอลิมปิก อีกด้วย
นอกจากนี้ยังมีโครงการห้องเรียนพิเศษอื่นๆ แต่หลายหลักสูตรก็ใกล้เคียงกันจนแยกแทบไม่ออก
TEP
TEP ย่อมาจาก Talent Enrichment Program (เน้นคณิตฯ วิทย์ฯ และภาษาอังกฤษ) การเรียนของห้องนี้ก็จะเหมือนกับห้อง Gifted แต่แค่มีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน ซึ่งเป็นห้องเรียนพิเศษของนักเรียนสาย วิทย์-คณิต นั่นเอง
GATE
GATE ย่อมาจาก Gifted and Talent Education Program โดยห้องเรียน GATE จะเรียนคล้ายกับ ห้องเรียน Gifted และ TEP แต่จะมีความแตกต่างกันออกไป ตรงที่ความเข้มข้นของเนื้อหาบางวิชา
SMA
SMA ย่อมาจาก Science Math Ability ห้องเรียนนี้เป็นหลักสูตรคล้ายกับ Gifted, TEP และ GATE ของนักเรียนสาย วิทย์-คณิต นั่นเอง
SME
SME ย่อมาจาก Science Math English ห้องเรียนนี้จะเน้น วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ แต่จะเพิ่มวิชาภาษาอังกฤษด้วย การเรียนห้องเรียนนี้จะคล้ายกับห้อง Gifted แต่จะเพิ่มชั่วโมงเรียนวิชาภาษาอังกฤษด้วย
AP
AP ย่อมาจาก Academic Proficiency Program เป็นโครงการเสริมสร้างศักยภาพความเป็นเลิศทางวิชาการ เน้นวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม
ESC
EIS
EIS ย่อมากจาก English for Integrated Study เรียนวิชาวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และคอมพิวเตอร์โดยใช้ตำราภาษาอังกฤษ แต่สอนโดยครูไทย
MSEP
MSEP ย่อมาจาก Mathematic and Science Enrichment Program เน้นรายวิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ มีการเรียนการสอนเป็นภาษาอังกฤษ
EP
EP ย่อมาจาก English Program เป็นห้องเรียนที่เน้นวิชาภาษาอังกฤษ โดยการเรียนการสอนจะเป็นภาษาอังกฤษเกือบทั้งหมด คล้ายๆ กับโรงเรียนนานาชาติ ต่างกันตรงที่บางรายวิชาจะสอนเป็นภาษาไทย
MEP
MEP ย่อมาจาก Mini English Program เป็นห้องเรียนที่เน้นการเรียนการสอนด้วยภาษาอังกฤษเหมือนกับห้อง English Program เพียงแต่ความเข้มข้นจะน้อยกว่า อาจจะมีหลายวิชาที่เรียนเป็นภาษาไทย
IEP
IEP ย่อมาจาก Intensive English Program เป็นห้องเรียนที่เน้นการเรียนวิชา วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ และเรียนแบบ English Program หรือเรียนเกือบทุกวิชาเป็นภาษาอังกฤษ เหมือนกับการรวมกันของห้องเรียน Gifted กับ English Programเข้าด้วยกัน เพียงแต่วิชาวิทย์และคณิตศาสตร์เนื้อหาอาจไม่เข้มข้นเท่าห้อง Gifted
........ฯลฯ........
ยังไม่หมดนะคะ ยังมีโรงเรียนที่อาจมีหลักสูตรห้องพิเศษแตกต่างจากนี้ แต่น้องๆยังไม่ต้องกังวลไป โครงสร้างหลักๆยังเรียนตามเนื้อหาปกติของหลักสูตรจากกระทรวงศึกษาธิการ บทเรียนและความรู้พื้นฐานเหล่านี้ยังอยู่ภายใต้โครงสร้างเดียวกัน แต่การจัดรูปแบบการเรียน ความเข้มข้นของการเรียน วิชาเสริม หรือภาษาที่ใช้ในการเรียนทำให้มีการจัดให้หลักสูตรเหล่านี้ต่างกัน เพราะในท้ายที่สุด น้องๆยังคงอยู่ในการระบบการศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัย ที่ใช้พื้นฐานความรู้เหมือนกันนั่นเอง
หลักสูตรเหล่านี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อให้น้องๆได้เรียน หรือเน้นในส่วนที่ตนเองถนัด หรือสนใจเร็วขึ้นจากเดิมที่จะแยกไปเรียนตามวิชาเฉพาะในระดับมหาวิทยาลัยนั่นเองค่ะ แต่อย่างที่พี่บอก ปลายทางยังรวมกันที่ข้อสอบคัดเลือกเข้ามหาวิทยาลัย พื้นฐานความรู้จึงยังไม่แยกกันอย่างชัดเจน
ดังนั้นไม่ต้องกังวลมากไปเพราะในการเลือกสายเรียนเพราะยังมีปัจจัยหลายอย่าง ที่ต้องใช้ร่วมในการตัดสินใจ
ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่เราชอบเรียน หรือมีความถนัด
โรงเรียนที่เราสนใจหรือสะดวกเข้าศึกษาต่อ
ภาษาที่ต้องใช้ในการเรียน เช่นบางห้องเรียนพิเศษเรียนเป็นภาษาอังกฤษเรามีพื้นฐานหรือมีความพร้อมหรือไม่
ปฏิทินรับสมัครนักเรียน ม.1 และ ม.4 ปีการศึกษา 2568 NEW!
กำหนดการสอบโอเน็ต 2568 (O-Net) ป.6 ม.3 และ ม.6
25 ธ.ค. 2563
14 ต.ค. 2564